'ก้อง' หวนจับคู่ 'ติ๊ก' เล่นพีเรียด รับบทหนักใจจ้อคำราชาศัพท์เพียบ

     ปิดกล้องไปนานเป็นปี และแล้วก็ได้คิวลงจอเสียที สำหรับละครเรื่อง "ระเบียงรัก" ผลงานจาก ค่ายบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ที่เตรียมออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี ทางไทยทีวีสีช่อง 3 เร็ว ๆ นี้

"ระเบียงรัก" ละครพีเรียดเรื่องเข้มข้น ที่น่าจะถูกใจคอละคร โดยเฉพาะละครแนวชีวิต เพราะเรื่องราวที่จะเกิดค่อนข้างดราม่าเรื่องหนึ่ง เป็นบทประพันธ์ของ อุปภัมภ์ กองแก้ว รับหน้าที่เขียนบทโทรทัศน์โดย นภัสกร และ ตุณย์ แถมยังได้ผู้กำกับละครแนวพีเรียดมือฉมังอย่าง ชนะ ครา ประยูร มาดูแลการผลิตให้ด้วย

นอกจากนี้ยังได้นักแสดงระดับฝีมือมาเป็นแม่เหล็กให้ละครเรื่องนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น หนุ่มก้อง-สหรัถ สังคปรีชา ที่มาประกบคู่กับนางเอกคู่ขวัญคนเดิม ติ๊ก-กัญญารัตน์ จิรรัชช กิจ และมีเพิ่มอีก 2 คู่พระ-นางอย่าง บี-บัณฑิต สาวแก้ว, น้ำผึ้ง-ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์, เพชร-กรุณพล เทียนสุวรรณ และ เจนสุดา ปานโต พร้อมด้วยนักแสดงสมทบอีกเพียบ

คราวนี้มาฟังความรู้สึกของนักแสดงนำในเรื่อง เริ่มที่ หนุ่มก้อง เปิดใจถึงบทบาทที่ได้รับว่า "เรื่องนี้ผมรับบทเป็น "ม.จ.ดนัยนฤมิต" เป็นคนที่จิตใจดีและอ่อนโยน เป็นหม่อมเจ้า ที่รับเล่นเรื่องนี้เพราะว่าร่วมงานกับบรอดคาซท์ฯมาหลายครั้งแล้ว ไว้วางใจในการทำงาน คุ้นเคยกับทีมงานเป็นอย่างดี รวมทั้งผู้กำกับอย่างพี่ชนะ คราประยูร เป็นผู้กำกับที่ทำงานละเอียดเข้มงวด ผมมั่นใจว่าผลงานจะออกมาดี ไม่หนักใจสักเท่าไหร่ ที่ยากคือต้องใช้คำราชาศัพท์ แต่ก็ยังไม่เยอะเท่ากับคนอื่น ๆ ครับ"

ด้าน สาวติ๊ก เผยถึงการทำงานว่า "เรื่องนี้ติ๊กเล่นเป็นพี่คนที่สอง คาแรกเตอร์ก็จะเป็นคนเรียบร้อยมาก ๆ เจ้าน้ำตาไม่กล้าต่อปากต่อคำกับคนอื่น เก็บกด ค่อนข้างแตกต่างจากตัวจริงของติ๊กมากเหมือนกัน เพราะว่าติ๊กเป็นคนเฮฮา สนุกสนาน เรื่องนี้ยากมากค่ะ ต้องใช้คำราชาศัพท์เยอะ ร้องไห้บ่อย มีซีนอารมณ์มากกว่าเรื่องก่อน ๆ ที่ติ๊กเคยแสดงมา โชคดีที่ได้ผู้กำกับชนะ คราประยูร ช่วยสอนให้ พี่นะเป็นคนละเอียดในเรื่องการทำงานมาก ติ๊กเองก็ชอบเพราะคิดว่างานต้องออกมาดีแน่ ๆ ในเรื่องเล่นคู่กับพี่ก้อง-สหรัถ ซึ่งรู้จักกันมาบ้างแล้ว ก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรในการปรับตัวค่ะ"

ถึงคิว หนุ่มบี กล่าวว่า "ในเรื่องผมเล่นเป็นฝรั่งที่มาทำงานในเมืองไทย เป็นศิลปินวาดรูป มีอารมณ์ศิลปินเยอะ จะเป็นคนเก็บความรู้สึก เพราะสมัยก่อนฝรั่งจะถูกมองไม่ค่อยดี ผมเองหายหน้าจากวงการแสดงไปนาน กลับมาครั้งนี้ต้องมาเล่นแนวพีเรียดด้วย บทถูกใจครับ แม้จะเล่นเป็นฝรั่ง แต่ก็ต้องใช้คำราชาศัพท์เยอะเหมือนกัน ยากตรงนั้นล่ะครับ อาศัยได้ผู้กำกับคอยแนะนำเยอะมากครับ"

น้ำผึ้ง เป็นการร่วมงานกับเพื่อนนักแสดงเรื่องนี้ครั้งแรก เปิดใจว่า "บทที่ได้รับก็ตรงกับตัวจริงเหมือนกันนะ ตรงที่เป็นคนมั่นใจในตัวเอง รู้จัก กาลเทศะ เรื่องนี้ยากตรงที่คำราชาศัพท์ บางครั้งเล่นไปก็ลืม เป็นละครพีเรียดเผลอพูดคำธรรมดาไปบ้าง ต้องทำการบ้านเยอะและหนัก การแต่งตัวค่อนข้างย้อนยุค ซึ่งน้ำผึ้งชอบมาก เพราะบางชุดนำมาประยุคใส่ได้ในสมัยนี้ น้ำผึ้งช่วยออกไอเดียการแต่งตัวกับฝ่ายเสื้อผ้าด้วยนะคะ"

อีกคน หนุ่มเพชร กล่าวถึงบทที่ได้รับว่า "เป็นเรื่องแรกเลยที่ต้องรับบทเป็นคนที่มีลูกแล้ว และลูกก็พิการ เดินไม่ได้ มีภรรยา ซึ่งรับบท โดย ไก่-สุปราณี เป็นคนเจ้าอารมณ์และไม่ค่อยชอบใจลูกตัวเองที่เป็นคนพิการ ทำให้มีปากเสียงกันบ่อย สุดท้ายก็เลิกกันและก็มาเจอกับ ทวิชา (เจนสุดา ปานโต) เรื่องนี้ค่อนข้างแตกต่างกับเรื่องอื่น เพราะต้องเล่นเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ผมเลยต้องปรับเปลี่ยนลุคให้ใส่แว่น ทำให้ดูมีอายุขึ้นอีกอย่างเรื่องนี้ต้องเข้าฉากกับน้องพลอยที่เล่นเป็นลูกบ่อย ซึ่งน้องพลอยเป็นเด็กที่เก่ง แล้วก็ท่องบทแม่นมาก พอผมพูดผิดเค้าก็จะจำได้ทันทีว่าพูดผิด ซึ่งทำให้ผมต้องท่องบทให้แม่นถ้าวันไหนที่ต้องเข้าฉากกับน้องพลอยครับ"

ปิดท้ายกับ สาวเจนสุดา "เจนเล่นเป็นน้องสาวคนสุดท้อง เอาแต่ใจนิด ๆ แต่เป็นคนดี บทที่ได้รับก็ไม่เท่าไหร่ เล่นเป็นนางแบบซึ่งเจนก็เคยเดินแบบมาก่อน เจนพยายามหาหนังสือสมัยคุณแม่มานั่งดูเป็นตัวอย่าง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ต้องเล่นพีเรียด หนักใจเรื่องการพูดที่ต้องพูดคำราชาศัพท์และภาษาไทยแบบสมัยก่อนบ้าง รวมทั้งได้ร่วมงานกับรุ่นพี่อีกหลายคนที่มีประสบการณ์การแสดงมาเยอะค่ะ"

หันมาดูในด้านการทำงาน ที่ต้องใช้ความพิถีพิถันในทุก ๆ เรื่อง ยิ่งได้ผู้กำกับอย่าง ชนะ คราประยูร มากำกับด้วยแล้ว ยิ่งต้องใช้ความละเอียดอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถานที่ องค์ประกอบ การแต่งกาย ซึ่งทีมงานต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อความสมจริงของบทประพันธ์มากที่สุด เนื้อหาส่วนใหญ่ค่อนข้างสนุกสนานอยู่แล้ว แถมตัวละครแต่ละตัวยังมีคาแรกเตอร์ค่อนข้างเด่นชัดเป็นตัวของตัวเอง นอกจากความสนุกที่ผู้ชมจะได้รับแล้วยังได้แง่คิดต่าง ๆ จากเรื่องราวที่ตัวละครจะชี้ให้เห็นผลดีและผลเสียของแต่ละคน การทำงานส่วนใหญ่ก็มีถ่ายทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด การทำงานกับนักแสดงแต่ละคนก็ไม่มีปัญหาอะไร จะมีการพูดคุยกันเพื่อทำความเข้าใจกับบทบาทของตัวละครนั้น ๆ ที่พวกเขาจะได้รับ อย่างบางคนต้องการมีการปรับลุคกันพอสมควร อย่าง บี ลงทุนไปเปลี่ยนสีผมให้เป็นฝรั่งจ๋า ทั้งที่เขาเองไม่ชอบทำสีผมเลย ด้านสาวติ๊กต้องคุมเข้มเรื่องน้ำหนักตัว ด้านการแต่งกายทุกคนก็ให้ความร่วมมือเต็มที่

ใครที่เป็นคอละครแนวพีเรียดจึงไม่น่าพลาดชมเรื่อง "ระเบียงรัก" ประเดิมตอนแรกวันที่ 13 ม.ค. นี้ หลังข่าวภาคค่ำ ช่อง 3....