คลิกอ่านเรื่องย่อตอนละคร :

ชลาษา หรือ น้ำ สาวห้าวบุคลิกมาดทอมบอย ครีเอทีฟบริษัทโฆษณาเล็กๆ แห่งหนึ่ง กับ ภูริดา หรือ ดา สาว A.E. สวยเฉี่ยว เปรี้ยวจี๊ด ช่างฝันโรแมนติค ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย เพราะน้ำเคยช่วยดาจากการจมน้ำจนกลายมาเป็นคู่ซี้ปาท่องโก๋ตั้งแต่เรียนจบ ซ้ำยังมาเช่าบ้านอยู่ใต้ชายคาเดียวกันจนวัยเริ่มใกล้แตะเลขสามเข้าทุกที อาการวิตกจริตของดาก็หนักข้อเข้าทุกวันด้วยโรคที่สาวครึ่งค่อนโลกหวาดกลัวกันนักกันหนา ... อาการคานทอง !! ยิ่งเมื่อดาต้องไปร่วมงานแต่งงานของกลุ่มเพื่อนเชียร์ลีดเดอร์สมัยเรียนมัธยม ที่เธอกำลังจะกลายเป็นสาวโสดคนสุดท้ายที่ยืนอยู่บนคาน งานนี้เธอต้องการกู้หน้าจากคำสบประมาท เพราะใครๆ ก็รู้ว่าเธอกับ ผู้กองกฤติน ผู้กองหนุ่มอนาคตไกลนั้นคบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียน เป็นคู่หวานแหววที่น่าอิจฉาเป็นที่สุด แต่กลับเป็นคู่ที่ไร้วี่แววจะลงเอยกันมากที่สุด งานนี้ดาจึงต้องการให้คนรักไปปรากฏตัวในงานแต่งหวังกระตุ้นให้เขาอยากแต่งงานขึ้นมาบ้าง แต่นั่นก็เป็นได้เพียงความหวังลมๆ แล้งๆ เหมือนเช่นทุกวัน เพราะสุดท้ายผู้กองหนุ่มก็ไม่ได้ไปร่วมงานเพราะมัวแต่ไปทำงานจับโจรผู้ร้าย งานรักษาสันติราษฎร์ให้กับประชาชีที่เขารักนักรักหนา

กฤตพยายามง้อดาแต่ดาไม่ให้อภัยจนโดนน้ำต่อว่าที่ดาเอาแต่ใจตัวเอง และออกตัวว่าจะไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือความรักของดากับกฤตอีกถ้าคราวนี้ดาจะต้องเสียพี่กฤตไป นั่นก็หมายความว่าดาจงเตรียมเป็นนางสาวคานทองอย่างเต็มตัว จิตที่วิตกอยู่แล้วของดาเลยยิ่งจริตแตกเข้าไปอีก นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ดาต้องขอร้องให้เพื่อนซี้เสนาธิการนักวางแผนอย่างน้ำช่วยเหลือให้เธอหาทางจัดการให้พี่กฤตขอเธอแต่งงานให้จงได้ !! ก่อนที่รถด่วนขบวนสุดท้ายจะออกจากชานชาลาชนิดไปแล้วไปลับไม่กลับมา น้ำไม่เห็นด้วยกับวิธีลงจากคานด้วยเล่ห์กลและอุบายมัดมือชกผู้ชายของดา แต่เพราะตลอดมาเธอไม่เคยรอดพ้นจากแววตาและน้ำตาของเพื่อนรัก งานนี้เธอจำต้องตอบรับและตั้งชื่อให้กับแผนการครั้งนี้ว่า ยุทธการหักคานทอง

ยุทธการครั้งนี้น้ำหวังช่วยให้เพื่อนถึงฝั่งฝัน แต่กับตัวเองน้ำไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าอาการเจ็บปวดจากความรักครั้งแรกที่ถูกซ่อนไว้มาตลอดหลายปีกำลังจะถูกเปิดออกมาอีกครั้ง เมื่อ ชโยดม เจ้าของบริษัทโฆษณาที่น้ำทำงานอยู่ประสบภาวะขาดทุน บริษัทจำเป็นต้องปิดตัว แต่ชโยดมได้พบกับ คีรินท์ ภัทรเมทิน นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อไฟแรงแห่งปี เขารู้สึกเห็นใจชโยดมเป็นอย่างมากที่ต้องประสบกับภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ เขาเห็นถึงความพยายามของชโยดมจึงตัดสินใจยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยการเป็นหุ้นส่วนและเจ้านายคนใหม่ของบริษัท

จนวันที่คีรินท์ก้าวเข้ามาในบริษัท น้ำตกตะลึงเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอรู้ว่าเจ้านายคนใหม่ของเธอแท้จริงแล้วคือคีรินท์ ชายหนุ่มในอดีตที่เคยทิ้งเธอไปเมื่อตอนเธอเรียนอยู่ปีหนึ่งนั่นเอง ทั้งคู่เคยคบหากันในช่วงเวลาที่คีรินท์อยู่ปี 4 ใกล้จะเรียนจบ และจากเธอไปโดยไม่มีคำบอกลาใดๆ เลยพร้อมกับเอาจูบแรกของเธอไป น้ำเฝ้าเก็บความเจ็บช้ำระกำใจและความไม่เข้าใจเอาไว้ในใจแต่เพียงผู้เดียว เธอโกรธและน้อยใจในสิ่งที่คีรินท์ทำกับเธอนักหนา แม้เวลาล่วงเลยมานานแสนนานแล้วก็ตามแต่เธอก็ไม่เคยลืม ส่วนคีรินท์เขามีเหตุผลบางประการที่ไม่สามารถบอกแก่เธอได้ แต่ในอดีตที่ผ่านมาเขาเองก็เจ็บปวดไม่แพ้เธอเหมือนกันในการที่เขาต้องทิ้งเธอไป น้ำยิ่งทวีความน้อยใจและเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้นเมื่อพบว่าคีรินท์เองนั้นก็มีสาวสวยไฮโซ มณิสร เคียงข้างกายตลอดเวลา เธอคิดอยู่เสมอว่าคีรินท์คนเก่าได้ตายจากชีวิตเธอไปแล้วจริงๆ แต่คีรินท์กลับคิดในสิ่งที่ตรงข้าม การได้เจอน้ำอีกครั้ง ไม่ใช่น้ำในภาพวาดที่เขาไปขอให้ เปลว ศิลปินเจ้าของร้านขายต้นไม้วาดขึ้นจากความทรงจำที่เขานั่งมองมันอยู่ทุกค่ำคืน ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เขายิ่งแน่ใจในความรู้สึกของตนเองมากยิ่งขึ้นว่าที่ผ่านมาเขายังคงรักน้ำมากมายเพียงใด และในวันนี้เขาจะทำทุกทางเพื่อไม่ให้สูญเสียเธอไปอีก ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเขาและมณิสรนั้นเป็นที่รู้กันว่าฝ่ายหญิงเท่านั้นที่ทึกทักไปเองแต่ฝ่ายเดียว แต่น้ำกลับปฏิเสธความพยายามสานต่ออดีตของคีรินท์ ในเมื่อคีรินท์ใช้ความเป็นเจ้านายบังคับให้เธออยู่เห็นเขา เธอจึงใช้โอกาสนี้เพื่อแก้แค้นให้เขารู้จักความเจ็บปวดบ้าง !!

ดาทำทุกอย่างตามแผนยุทธการหักคานทองของน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการลากผู้กองหนุ่มเข้าไปดูหนังรักโรแมนติคหวังให้กฤตซึ้งและอินไปกับเธอ แต่กฤตกลับสนุกสนานอยู่กับหนังบู๊สนั่นหวั่นไหวแทน หรือแม้กระทั่งแผนมัดมือชกด้วยการหลอกพาผู้กองไปงาน Wedding Fair แต่ผู้กองหนุ่มก็หาทางชิ่งไปวิ่งไล่จับผู้ร้ายแทนซะอีก สุดท้ายแผนเด็ดขอความร่วมมือจาก น้องมาร์ค หลานชายวัยซนของผู้กองหนุ่มให้เป็นพ่อสื่อกามเทพในงานวันเกิดของ ศรีวิไล แม่ของกฤตที่แยกทางกับ พ . ต . ท . ประวิทย์ ผู้การภาคฯ จอมเจ้าชู้พ่อของกฤต ซึ่งงานนี้ดาหมายมั่นว่าจะได้ผลเพราะแบ็คอัพชั้นดีมีทั้งศรีวิไล การันต์ พี่ชายของกฤต และ อัปสร พี่สะใภ้ของกฤตเห็นดีเห็นงามด้วย แต่งานกลับลงเอยด้วยการทะเลาะเบาะแว้งของศรีวิไลและประวิทย์คู่พ่อแม่ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด แม้ว่าทั้งคู่จะยังมีเยื่อใยต่อกันอยู่ก็ตาม แต่เพราะทิฐิเลยไม่ยอมกลับมาคืนดีกัน คลื่นสึนามิเลยทำให้ความหวังของดาต้องแห้วรับประทานอีกตามเคย ซึ่งอันที่จริงแล้วไม่ใช่ว่ากฤตไม่รักดา กฤตรู้ถึงความต้องการของดาแต่ที่เขาพยายามเลี่ยงที่จะพูดเรื่องงานแต่งงานกับดามาตลอดนั่นก็เพราะอาชีพตำรวจที่เขารัก มันเป็นสาเหตุเดียวกับที่พ่อกับแม่แยกทางกัน แม่รักพ่อมากแต่ไม่รู้ว่าวันใดที่ออกจากบ้านไปแล้วจะไม่ได้กลับมา กฤตเองก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับดาเหมือนกัน

เมื่อแผนการทั้งปวงใช้ไม่ได้ผล ซ้ำเรื่องยังรู้ถึงหูของ เอวิกา หรือ เอมี่ A.E. คู่ปรับของน้ำและดาที่ชอบสอดรู้สอดเห็นหาเรื่องมาเหน็บแนมน้ำกับดาได้ทุกเมื่อเชื่อวัน เอมี่ทับถมน้ำกับดาว่าต้องเป็นพวกขึ้นคานอย่างถาวรชัวร์ ( ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ยังไม่มีวี่แววเช่นกัน ) น้ำเริ่มรู้สึกว่านี่คงเป็นงานขั้นปราบเซียนเลยทีเดียว และมันก็ท้าทายความสามารถคนอย่างเธอไม่น้อยเลย น้ำเริ่มมีความคิดใหม่เกี่ยวกับสัญชาตญาณนักล่าของเพศผู้ เธอจึงตัดสินใจใช้ ภีห์มะ ลูกชายเจ้าของร้านเพชรรูปหล่อลูกครึ่งไทย - อินเดีย เพื่อนเก่าของภูริดาให้มาตามจีบภูริดา โดยหวังให้กฤตเริ่มเห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของดาบ้าง แต่เรื่องกลับโอละพ่อเมื่อภีห์มะดันมาหลงรักปิ๊งน้ำตั้งแต่แรกเห็นอย่างหัวปักหัวปำตั้งใจที่จะจีบน้ำให้ได้ จึงแวะเวียนเข้ามาขายขนมจีบน้ำถึงบริษัทอย่างสม่ำเสมอ เมื่อคีรินท์เห็นก็ไม่พอใจใช้อำนาจของเจ้านายบีบบังคับอ้างเรื่องงานให้น้ำมาอยู่ใกล้ตัวเขาเพื่อกันท่าจากไอ้หนุ่มอินเดีย น้ำไม่พอใจเลยตัดสินใจคบเป็นแฟนกับนายภีห์มะหวังให้คีรินท์เลิกจุ้นจ้าน แต่คีรินท์ไม่ยอมแพ้เพราะรู้ดีว่าน้ำไม่ได้รักไอ้แขกนั่นจริง งานนี้คีรินท์เลยท้าทายกับน้ำถ้าน้ำแต่งงานกับภีห์มะ คีรินท์ก็จะเลิกยุ่งกับน้ำและยอมปล่อยน้ำไป เจอเข้าแบบนี้เสนาธิการหัวเสธ . อย่างน้ำก็เสียรังวัดเพราะไม่กล้าจะเอาชีวิตโสดของตัวเองไปแลก ปมที่ผูกไว้กับนายภีห์มะก็ยิ่งกลายมาเป็นบ่วงผูกคอเพราะนายภีห์มะดันคิดจริงๆ จังๆ กับเธอถึงขั้นรุกเร้าขอเธอแต่งงานแทบทุกวัน น้ำก็ต้องหาวิธีบ่ายเบี่ยงไปแทบทุกครั้งเช่นกัน แต่แค่นั้นน้ำยังปวดหัวไม่พอ เมื่อมณิสรที่ไปเห็นภาพวาดของน้ำในบ้านของคีรินท์เริ่มไม่พอใจ และขุดคุ้ยจนรู้ว่าน้ำกับคีรินท์เป็นอดีตแฟนฉัน มณิสรเลยมาอาละวาดกับน้ำกันท่าไม่ให้น้ำมาเจ๊าะแจ๊ะกับคีรินท์ โดยมีเอมี่ที่หมั่นไส้น้ำคอยหาจังหวะช่วยให้มณิสรมาเล่นงานน้ำอยู่เนืองๆ โดยไม่ยอมเปิดเผยตัว เพราะคิดว่าจะได้เป็นตาอยู่มาคว้าพุงคุณคีรินท์ไปกินเพียวๆ

แผนการใช้นายภีห์มะของดาเหลวไม่เป็นท่า เพราะไม่ได้ช่วยทำให้ผู้กองหนุ่มกระตือรือร้นอยากแต่งงานกับเธอ ซ้ำไปสร้างเรื่องปวดหัวให้กับเพื่อนรักอีกต่างหาก ดาเริ่มกังวลใจไม่รู้จะหาหนทางลงจากคานยังไง ระหว่างนั้นเองที่ดาเริ่มเห็นท่าทีที่แปลกไปของกฤต โดยเฉพาะข่าวที่เอมี่จอมจุ้นไปเห็นผู้กองซื้อของเล่นเด็กและอยู่กับเด็กผู้หญิง เอามาปล่อยข่าวเสียหายสมน้ำหน้าดา ดาเริ่มคิดมากเพราะรู้ว่ากฤตอยู่กับผู้การฯที่นิสัยเจ้าชู้ เลยคิดว่ากฤตจะไปมีลูกนอกสมรสกับคนอื่นเลยไม่ยอมแต่งงานกับเธอซะที งานนี้ดาเลยต้องทำตัวเป็นนักสืบ สืบเสาะหาความจริงให้วุ่นจนมารู้เอาว่ากฤตไม่ได้มีลูก แต่เด็กที่กฤตพาไปเที่ยวด้วยคือ น้องลิลลี่ ลูกสาวของ ปรียาภัทร แฟนเก่าของกฤตในอดีต ที่พยายามกลับมาสานสัมพันธ์ต่อหลังจากที่กฤตไปช่วยน้องลิลลี่มาจากการถูกลักพาตัวเรียกค่าไถ่ ภัทรหย่ากับสามีที่อังกฤษแล้วมาอยู่เมืองไทย พอได้เจอกับกฤตก็หวังใช้ความน่าสงสารของตัวเองที่ต้องเลี้ยงลูกสาวตามลำพังเรียกร้องให้กฤตสงสาร อีกเหตุผลคือต้องการแย่งชิงกฤตคืนจากภูริดา เพราะสมัยเรียนปรียาภัทรคิดเอาเองว่าถูกภูริดาแย่งกฤตไปจากเธอ

ผู้กองหนุ่มตัวกลางระหว่างสองสาวต้องพยายามไม่ให้ดากับปรียาภัทรมีปัญหากัน เพราะผู้กองสงสารน้องลิลลี่ที่ขาดพ่อ หลายครั้งที่ต้องยอมทำตัวเป็นพ่อให้กับน้องลิลลี่ไปประชุมผู้ปกครองบ้าง พาไปร่วมกิจกรรมครอบครัวบ้าง ( โดยปรียาภัทรบังคับลูกให้ขอร้องกฤต เล่นละครตบตากฤต ) เจอเข้าแบบนี้บ่อยๆ ดาเริ่มหวั่นใจกลัวจะเสียกฤตให้กับแม่ม่ายลูกติด ดาเลยไปขอความร่วมมือจาก จ่านารี ตำรวจหญิงผู้ชื่นชอบของแบรนด์เนมเป็นชีวิตจิตใจที่ทำงานร่วมกับกฤติน เป็นผู้สอดส่องพฤติกรรมของกฤตินและช่วยกันท่าปรียาภัทร ซึ่งจ่านารียินดีทำเป็นอย่างยิ่งเพื่อแลกกับเงินค่าจ้างอย่างงาม

ระหว่างนั้นเกิดเรื่องที่บริษัทเมื่อเอมี่ถูกลวนลามจากลูกค้าชีกอรายใหญ่ของบริษัท น้ำเกลียดการกระทำที่ไม่ให้เกียรติผู้หญิงเช่นนี้เป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจชกหน้าลูกค้ารายนั้นเข้าเต็มแรง ชโยดมไม่พอใจที่น้ำปฏิบัติต่อลูกค้าเช่นนั้น แต่คีรินท์กลับไม่เห็นด้วย และหลังจากไต่สวนทุกคนในบริษัทโดยเฉพาะพนักงานหญิง ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเคยโดนลูกค้ารายนี้ลวนลามมานานแล้วถ้วนหน้า แต่ไม่อยากเอาความอะไรเนื่องจากยังเกรงใจทางบริษัทอยู่มาก คีรินท์รู้สึกโกรธมากเขาตัดสินใจเลิกทำการค้ากับลูกค้ารายนี้ตลอดไป และยังกำชับให้ลูกค้าเจ้าปัญหานำเงินซึ่งเป็นหนี้กับทางบริษัทมาคืนอีกด้วย เอมี่เริ่มรู้สึกดีขึ้นกับน้ำทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นศัตรูกัน เหตุการณ์ในครั้งนี้เองเลยทำให้เอมี่เห็นถึงความเป็นคนมีน้ำใจรักเพื่อนพ้องของน้ำ เธอจึงเริ่มปฏิบัติต่อน้ำดีขึ้นและนั่นหมายถึงต่อดาด้วยเช่นกัน ส่วนน้ำเองจากที่เคยตั้งแง่กับคีรินท์มาตลอด ก็เริ่มมีความรู้สึกดีขึ้นต่อเขาเมื่อเขาปกป้องเธอและยังรักความยุติธรรมและความถูกต้องเป็นหลักอีกด้วย เธอจึงแอบกระซิบขอบคุณเขา คีรินท์รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สามารถทลายกำแพงที่อยู่ในใจน้ำลงได้บ้าง แม้ว่าจะยังไม่หมดสิ้นเลยทีเดียว

ภูริดารู้สึกยินดีที่เห็นเพื่อนรักเริ่มมีความรักขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เศร้าโศกเสียใจมานาน แต่แล้วเหตุการณ์ร้ายๆ ก็ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ เมื่อจ่านารีสายสืบจำเป็นของภูริดาโทรสายด่วนมารายงานว่า ปรียาภัทรบุกมาหาผู้กองหนุ่มถึงห้องทำงานแล้วพากันออกไปหลุดจากปราการด่านป้องกันของเธอไปได้ ดารีบตามไปแล้วก็ต้องเจอกับภาพบาดตาบาดใจ เมื่อพบว่าปรียาภัทรกำลังออดอ้อนออเซาะกฤตตามแผนที่เจ้าหล่อนวางไว้ ดากับกฤตทะเลาะกันอย่างรุนแรง ดาเสียใจมากวิ่งหนีออกไปทันที กฤตพยายามตามหาดาทุกแห่งที่คิดว่าเธอจะไป แต่ไม่เป็นผล ในที่สุดเขาจึงตัดสินใจโทรหาน้ำให้ออกมาช่วยกันตามหา

คีรินท์มาเจอภูริดากำลังเมาหัวราน้ำอยู่ที่ห้องอาหารในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง เขาจึงตัดสินใจเข้าไปหาเธอ ภูริดาระบายความในใจให้คีรินท์ได้รู้ว่า เธอกำลังมีปัญหากับกฤตินมากเพียงใด คีรินท์รู้สึกเห็นใจภูริดาเป็นอย่างมากที่เห็นเธอเสียใจเมาจนฟุบหลับไป คีรินท์ไม่รู้จะพาเธอไปส่งที่ไหน เขาจึงพาเธอไปพักผ่อนที่บ้านเขาก่อน เช้าวันรุ่งขึ้นภูริดาตื่นขึ้นมาหลังจากได้นอนอย่างเต็มอิ่ม เธอจึงปรึกษากับคีรินท์ในสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งสองจึงตัดสินใจร่วมกันวางแผนที่จะทำให้ทั้งกฤตินและน้ำหันกลับมาเห็นคุณค่าของทั้งคู่ดังเดิม คีรินท์ขับรถไปส่งภูริดาที่บ้านซึ่งน้ำและกฤตินกำลังคอยอยู่ เมื่อเห็นว่าผู้ที่มาส่งคือใคร น้ำเริ่มไม่พอใจที่เห็นเพื่อนรักกลับไว้ใจผู้ที่ได้ชื่อว่าเคยเป็นศัตรูของเธอ เธอจึงต่อว่าภูริดาอย่างรุนแรง ภูริดาเริ่มรู้สึกได้ว่าแผนการที่วางไว้เริ่มได้ผล เธอจึงแกล้งแสดงละครทำเป็นสนิทสนมกับคีรินท์ยั่วให้สองคนโกรธแล้วมันก็ได้ผลเกินคาด เมื่อกฤตินเกิดอารมณ์หึงหวงจนขาดสติเข้าชกหน้าคีรินท์ สองหนุ่มเลยชกต่อยกัน น้ำต้องรีบเข้าไปห้าม ทั้งคู่เลยยุติลงได้

แต่เรื่องชักจะไปกันใหญ่ทำให้หลายคนในบริษัทปวดหัวเพราะเพื่อนรักอย่างน้ำและดากลับกลายมาเป็นศัตรูกัน เอมี่พยายามเข้ามาไกล่เกลี่ยหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อสองเพื่อนรักยังคงวางท่าปั้นปึ่งต่อกันเช่นเดิม เอมี่ตัดสินใจโทรไปหาคีรินท์เพื่อให้เคลียร์ในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมั่นใจว่าคีรินท์ต้องเป็นต้นเหตุเรื่องนี้อย่างแน่นอน คีรินท์รับปากว่าจะรีบเคลียร์ให้อย่างเรียบร้อยแน่นอน ดาเริ่มรู้สึกว่าแผนการชักจะได้ผลเกินคาดเสียแล้ว เมื่อน้ำก็เริ่มหึงหวงคีรินท์ขึ้นมาบ้าง และกฤตินก็เริ่มให้ความสำคัญกับเธอมากกว่าที่เคยเป็นมา เธอจึงคิดจะยุติแผนการทั้งหมด แต่ช้าไปเสียแล้วเมื่อดาพบว่าน้ำเป็นลมหมดสติเพราะความเครียดสะสมมากมายมาช้านาน ภูริดาร้องไห้พร่ำขอโทษเพื่อนรักในสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งสัญญาว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก น้ำเข้าใจดาทุกอย่างเธออภัยให้ในทุกสิ่งที่ดาทำ ทั้งสองจึงกลับมาเป็นเพื่อนรักกันดังเดิม

เมื่อทุกสิ่งกลับมาเป็นดังเดิม ดากลับต้องมาปวดหัวกับเรื่องใหม่เมื่อกรรมการบริหารบริษัทต้องการให้คีรินท์เป็นพรีเซ็นเตอร์สปอตโฆษณาชิ้นใหม่ คีรินท์ไม่ปฏิเสธงานในครั้งนี้แต่มีเงื่อนไขเดียวคือ น้ำต้องเป็นผู้รับผิดชอบงานชิ้นนี้เท่านั้น น้ำจำใจต้องตกลงยอมทำงานนี้เพราะต้องการใช้เป็นข้ออ้างหนีภีห์มะที่หาเรื่องมัดมือชกจะพาเธอไปหาแม่ของเขา ขณะเดียวกันลูกค้ารายใหญ่อีกรายก็ต้องการให้กฤตินเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าตัวเองเช่นกัน เมื่อไปเห็นภาพผู้กองหนุ่มบุกเข้าจับกุมตัวคนร้ายคดีชิงตัวประกันแล้วออกจอทีวี จนสาวๆ กรี๊ดกร๊าดกันทั้งเมืองเพราะความเท่ห์ พอลูกค้ารู้ว่าเป็นคนรักของ A.E. ในบริษัทเลยขอร้องแกมบังคับ ตอนแรกกฤตจะปฏิเสธ แต่กฤตกลับคิดว่าจะใช้โอกาสนี้แกล้งภูริดาที่เจ้าเล่ห์เพทุบายใช้คนอื่นมาทำให้เขาหึง

เกาะพังงาเป็นสถานที่ถ่ายทำแห่งแรก ภูริดาถูกสั่งให้แยกตัวจากทีมงานมานั่งรถคันเดียวกับกฤติน คอยปรนนิบัติพัดวีเขาราวกับเป็นเด็กๆ กฤตินจิกใช้ภูริดาตลอดทั้งวันจนเธอหมดแรง ฝ่ายชลาษาก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเมื่อต้องไปเป็นทาสรับใช้คีรินท์ระหว่างถ่ายทำโฆษณาที่น้ำตกทีลอซู แล้วยังมีภีห์มะที่รู้ข่าวตามมากันท่าคีรินท์กับน้ำ และเตรียมแหวนเพชรเม็ดเป้งที่จะขอน้ำแต่งงาน จนคีรินท์รู้สึกขวางหูขวางตาภีห์มะเลยพาลหาเรื่องใช้งานน้ำแทบไม่ได้หยุดพักเลย ในระหว่างถ่ายทำอยู่ริมตลิ่งน้ำพลาดตกน้ำ ภีห์มะพยายามกระโดดลงไปช่วยแต่ยิ่งทำให้น้ำเดือดร้อนมากกว่าเดิมที่ต้องคอยพยุงภีห์มะอีกคน คีรินท์กระโจนลงไปช่วยน้ำอย่างไม่คิดชีวิตทันที ภีห์มะเลยได้เห็นถึงความจริงใจที่คีรินท์และความรักจริงที่คีรินทร์มีต่อน้ำ และน้ำก็เข้ามาขอโทษภีห์มะว่าเธอไม่สามารถแต่งงานกับภีห์มะได้จริงๆ ภีห์มะจึงเข้าใจยอมเป็นฝ่ายบอกลาน้ำพร้อมทั้งเตือนน้ำให้เปิดหัวใจให้กับคีรินท์ก่อนที่น้ำจะกลายเป็นสาวแก่ขึ้นคาน

ทางฝั่งของดากับกฤตระหว่างการถ่ายทำที่เกือบจะเสร็จเรียบร้อย เหตุร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อคนร้ายคนหนึ่งที่หลุดรอดจากคดีชิงตัวประกันได้ย้อนกลับมาหาทางแก้แค้นผู้กองกฤต ดาเป็นเป้าหมายที่มันพยายามจะจับตัวไป แต่กฤตรู้ตัวก่อนเลยช่วยเหลือดาได้อย่างปลอดภัยและสามารถจับคนร้ายได้ ดาบาดเจ็บแต่ไม่สาหัส เหตุการณ์นี้เองที่ทำให้กฤตเริ่มคิดถึงชีวิตในอนาคตของเขาขึ้นมา ระหว่างอาชีพที่รักและหญิงสาวที่เขาจะใช้ชีวิตร่วมด้วยไปจนแก่เฒ่า ... เขาเริ่มที่จะปรึกษาเรื่องนี้กับผู้การประวิทย์ขณะที่มีคำสั่งเลื่อนยศให้กับเขา ถึงเวลาที่กฤตต้องเลือกซะที

น้ำเก็บเอาคำพูดของภีห์มะมาคิดเลยยอมเปิดใจให้กับคีรินท์ เมื่อคีรินท์พาน้ำไปที่บ้านของเขาพร้อมทั้งอธิบายให้เธอฟังถึงสาเหตุการจากมาโดยไม่ได้บอกเธอ ปีนั้นบิดาและมารดาของเขาประสบอุบัติเหตุ บิดาเสียชีวิตทันที ส่วน วันเพ็ญ มารดาเป็นอัมพาตครึ่งตัวและไม่ยอมพูดอะไรออกมา ติดอยู่กับความเสียใจตลอดเวลา เขาจึงต้องทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวโดยปริยาย ต้องทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว แต่โชคดีที่ได้พบกับ คุณมนชิต บิดาของมณิสรคอยช่วยเหลือ เป็นผู้มีพระคุณที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเขาและมณิสรไม่เคยมีอะไรเกินเลยแม้แต่น้อย น้ำรู้สึกเห็นใจคีรินท์และได้เห็นภาพวาดของเธอในห้องทำงานของเขา น้ำเลยเข้าใจ เธอรับปากที่จะช่วยดูแลมารดาของเขาให้ แต่มณิสรก็มารู้เรื่องที่คีรินท์กับน้ำกลับมาคบหากัน มณิสรไม่พอใจเร่งรัดให้พ่อไปบังคับให้คีรินท์แต่งงานกับเธอเพื่อตัดปัญหาน้ำออกจากชีวิตคีรินท์ มนชิตบอกคีรินท์เรื่องจะให้แต่งงานกับมณิสร เลยทำให้คีรินท์หนักใจเพราะมันเป็นความต้องการของผู้มีพระคุณ คีรินท์ไม่กล้าบอกเรื่องนี้ให้น้ำรู้ แต่น้ำก็มารู้จนได้จากมณิสรที่มาเย้ยหยันเธอถึงที่ทำงาน

ฝ่ายดาเองก็เจอเรื่องที่น่าหนักใจเมื่อได้ทราบข่าวจากจ่านารีว่ากฤตกำลังจะได้เลื่อนยศ เป็นโอกาสที่ดีในชีวิตการทำงานของกฤต ดาเริ่มใจหายเพราะนั่นเท่ากับว่ากฤตอาจจะเลือกงานมากกว่าที่จะเลือกเธอ สองเพื่อนซี้ต่างนั่งกอดคอปลอบใจกันและกัน สงสัยว่าทั้งน้ำและดาจะต้องอาศัยอยู่บนคานทองไปตลอดชีวิต โดยมีการ์ดแต่งงานจากเอมี่มาเป็นตัวกระตุ้นให้สองสาวอยากปล่อยโฮ เพราะคู่รักคนใหม่ที่คบกันไม่นานแต่ลงเอยอย่างรวดเร็วของเอมี่ก็คือนายภีห์มะ ทั้งน้ำและดาต่างไปช่วยงานแต่งงานของเอมี่กับภีห์มะ กฤตให้คำตอบกับผู้การฯ ประวิทย์ถึงการตัดสินใจของเขาก่อนที่จะเดินทางไปร่วมงานแต่งของเอมี่ แต่ระหว่างทางที่จะไปกฤตได้รับรู้จากปรียาภัทรว่ารถโรงเรียนของน้องลิลลี่เกิดประสบอุบัติเหตุ กฤตรีบไปดูแลน้องลิลลี่กับปรียาภัทร ภูริดาไม่เห็นกฤตมาร่วมงานและได้รู้เรื่องว่ากฤตไปช่วยดูแลน้องลิลลี่ ภูริดาเสียใจเลยบอกกับน้ำว่าถึงเวลาที่เธอควรจะตัดสินใจจริงๆ จังๆ ซะที ดาไปขอแยกทางกับกฤตจบชีวิตรักที่คบกันมาเนิ่นนาน โดยหารู้ไม่ว่าวันที่น้องลิลลี่ประสบอุบัติเหตุ กฤตบอกปรียาภัทรให้รู้ว่าชีวิตเขาขาดดาไม่ได้ สิ่งที่เขาเลือกคือการลาออกจากการเป็นตำรวจเพื่อขอดาแต่งงาน ปรียาภัทรเลยเข้าใจกฤต ประกอบกับสามีของเธอเดินทางมาขอคืนดี ปรียาภัทรเลยเลิกตอแยกฤต แต่ทุกอย่างก็ช้าไป เมื่อดามาขอแยกทางโดยไม่ยอมฟังเหตุผลจากกฤต เขาจำเป็นต้องยอมปล่อยเธอไป

ฝ่ายน้ำแม้จะรู้ว่าคีรินท์ต้องแต่งงานกับมณิสร แต่น้ำก็ยังมาช่วยดูแลแม่ของคีรินท์ให้ เธอไม่โกรธคีรินท์เพราะเข้าใจดีว่าคีรินท์ต้องตอบแทนผู้มีพระคุณ ระหว่างที่น้ำดูแลแม่ของคีรินท์นั้นเองสิ่งอัศจรรย์ได้เกิดขึ้น เมื่อแม่ของคีรินท์เริ่มหายจากอาการไม่ยอมพูดเพราะเห็นอาการทนทุกข์ทรมานของลูกชาย วันเพ็ญให้ข้อคิดกับลูกให้ดูตัวเธอเป็นตัวอย่าง เพราะความเสียใจที่คนรักมาจากไปทำให้ชีวิตทั้งชีวิตต้องแบกรับความทุกข์ แม่ไม่อยากให้คีรินท์เป็นอย่างแม่อีก คีรินท์จึงตัดสินใจไปพบกับคุณมนชิตอธิบายให้ฟังต่อหน้ามณิสรว่าเขาไม่เคยรักมณิสรเลยและเขาจะไม่ยอมเสียน้ำไป มณิสรโกรธเป็นอย่างมากแต่มนชิตก็เข้าใจเพราะเป็นผู้ใหญ่พอ มนชิตยอมรับข้อเสนอของคีรินท์ที่มาลาออกจากงาน ส่วนมณิสรต้องยอมรับความจริงโดยปริยายจากผู้เป็นพ่อ

น้ำกับดาสองเพื่อนซี้ตัดสินใจคืนบ้านเช่าแล้วลาออกจากงานในบริษัท ร่ำลากับเอมี่และภีห์มะโดยสองสาวตั้งใจว่าจะย้ายไปอยู่เชียงใหม่ในหมู่บ้านที่ได้จองไว้แล้วชื่อ หมู่บ้านคานทองนิเวศน์ ( ประชดตัวเอง ) เพื่อเปิดร้านขายต้นไม้ขายอาหารเล็กๆ อยู่กันตามลำพังสองสาว ไปเป็นสาวแก่ขึ้นคานอยู่บนดอยให้รู้แล้วรู้รอด แต่คีรินท์มารู้เรื่องเข้าเลยไปหาผู้กองกฤตเพื่อร่วมมือกันหยุดยั้งสองสาวผู้กุมหัวใจของสองหนุ่มก่อนที่จะเสียคนรักไป คีรินท์กับกฤตไปขอความร่วมมือจากน้องลิลลี่และน้องมาร์คให้ช่วยเป็นกามเทพตัวน้อย เป็นกาวประสานใจถือแหวนและช่อดอกไม้ไปหาน้ำและดา พร้อมกับขอแต่งงานสองสาวท่ามกลางบรรยากาศอันแสนโรแมนติค แล้วมีหรือที่สองสาวกลัวขึ้นคานจะปฏิเสธ

ในที่สุดเรื่องราวของสองเพื่อนซี้อย่างภูริดากับชลาษาก็ได้ลงจากคานทองสมใจ สองสาวชนแก้วฉลองคานทองที่หักสะบั้นไม่มีวันต่อติดแบบสุดๆ ชลาษาบ่นว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าตะกายหาวิธีการให้มากเรื่องเลยเสียเวลา แต่ภูริดากลับบอกว่าดีแล้วเพราะอานิสงส์ผลบุญครั้งนี้ทำให้คานทองของเพื่อนรักก็หักไปด้วย ทั้งคู่ประสานเสียงหัวเราะกันอย่างมีความสุข ชลาษาก็ได้แต่หวังว่าชีวิตนี้คงไม่ต้องคิดหาแผนการหักคานให้ใครอีกแล้ว

 
www.broadcastthai.com