:: ตัวละคร :: เนื้อเรื่องย่อ :: ประมวลภาพเบื้องหลัง :: ประมวลภาพงานเลี้ยงปิดกล้อง ::  

 

   
บทประพันธ์ : กันยามาส
       ากภาวะเศรษฐกิจที่ตกสะเก็ดจนเรื้อรัง เต็มตรอง ก็คืออีกหนึ่งคำยืนยันว่าดูท่าเศรฐกิจจะยังไม่ดีจริง ๆ เมื่อเธอต้องตกงานอีกครั้งในรอบหลายปีที่ผ่านมา จนทำให้เธอฮึดที่จะหางานที่เป็นเจ้านายตัวเองเสียที เฝ้าถามตัวเองอยู่หลายตลบ จนได้คำตอบว่าคงไม่มีอาชีพใดจะอิสระและซื้อง่ายขายคล่องได้เท่าอาชีพแม่ค้าอีกแล้ว ส่วนจะขายอะไรนั้นคิดต่ออีกสองตลบ แกงเขียวหวานอาหารจานโปรดก็เป็นคำตอบสุดท้ายที่เธอได้รับ ค่าที่เจ้าตัวชอบเป็นชีวิตจิตใจ หนำซ้ำคุณยายยังสาวและโสดของเธอ สารภี ก็มีสูตรลับที่ใครต่อใครก็ต่างติดใจกันทั้งสิ้น

        ก่อนที่เต็มตรองจะโยกย้ายที่อยู่ เธอก็มีอันต้องให้ความช่วยเหลือเพื่อนสาวร่วมอพาร์ตเม้นท์ นกยูง สาวเอสคอร์ทที่อยู่ห้องตรงกันข้าม เพราะนกยูงต้องการจะบินออกจากกรงทองของผู้เลี้ยงดูคนล่าสุด ไปสู่อ้อมอกชายคนรักที่กำลังลุ่มหลงเธอหัวปักหัวปำ บวรวิทย์ ลูกชายเศรษฐีนีอย่าง คุณบราลี เต็มตรองจึงจำต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิงกลางคืนพานกยูงหนี โดยหารู้ไม่ว่านั่นกลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอ เมื่อคนที่มารับตัวนกยูงกับเธอ คือเพื่อนสนิทของบวรวิทย์ที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก ศรุต จึงทำให้เขาพลอยเข้าใจผิดคิดว่าเต็มตรองทำอาชีพเดียวกับนกยูง ถึงแม้จะพบกันได้ไม่นาน แต่ก็ดูเหมือนศรรักได้ปักอกศรุตอย่างจัง พร้อม ๆ กับความรู้สึกเสียดายจับใจกับวิถีชีวิตของเต็มตรอง ศรุตจึงพยายามหักใจเพราะรู้ดีถึงความไม่คู่ควรกันในทางสังคม แม้ว่าเต็มตรองจะออกปากว่าขณะนี้ออกจากงานที่ทำแล้ว

        แต่จนแล้วจนรอดศรุตก็ไม่สามารถหักใจให้ลืมเต็มตรองได้ แม้จะมีแฟนเก่าลูกสาวรัฐมนตรี สมศักดิ์ พัดหวนมาหาอย่าง บุรณี หรือ เบบี๋ ความสวยและเปรี้ยวของเธอก็ยังไม่สามารถเอาชนะใจเขาได้

        หลังจากตรองตก เต็มตรองก็นำความคิดเรื่องเปิดร้านขายแกงเขียวหวานมาปรึกษาพ่อแม่ ทั้ง คุณโอภาส และ คุณเตือนตา ก็ไม่สามารถคัดค้านความคิดนี้ได้ เต็มตรองจึงไปฝึกปรือฝีมืออาหารเพิ่มเติมกับคุณยายสารภี จนแม้แต่ญาติกึ่งเพื่อนอย่าง พิไลพร ก็ยอมรับถึงรสชาติความอร่อยของแกงเขียวหวานจากรสมือเต็มตรอง

        ภายหลังจากการหายตัวไปของนกยูง สมศักดิ์ ก็เป็นเดือดเป็นแค้นที่ถูกลูบคม จึงสั่งให้ลูกน้องตามหา ทว่าคนที่สมใจที่สุดดูจะเป็นเบบี๋ เพราะเธอนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากับผู้หญิงของพ่อทุกคน ความที่เธอถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจและปรนเปรอด้วยเงิน เพราะจากความเจ้าชู้ของบิดาทำให้มารดาต้องหนีไปบวชเป็นแม่ชี สมศักดิ์จึงทั้งรักและเกรงใจบุตรสาว ส่งผลให้เบบี๋แสดงความพยศจนคนรอบข้างต่างเบือนหน้าหนี มีเพียง โฉมสุดา น้าสาวเท่านั่นที่กล้าว่ากล่าวเบบี๋ ทั้งสองจึงเป็นขมิ้นกับปูนกันเพราะต่างก็ไม่มีใครยอมลงให้กัน

        ความว้าวุ่นใจเรื่องเต็มตรองของศรุต เริ่มมีวี่แววบรรเทาลงเมื่อ สันติ คุณปู่เล็กที่สนิทสนมของเขากลับมาจากเมืองนอก และพักอยู่ที่บ้านสวนเมืองนนท์ จากการพูดคุยทำให้ศรุตเองก็ได้ทราบว่า ปู่เองก็มีปัญหาหัวใจเช่นเดียวกับเขา เพราะปู่มีอดีตรักอยู่กับแม่ค้าสาวที่ทางบ้านกีดกันพลอยทำให้เส้นทางรักต้องสะบั้นตั้งแต่สมัยหนุ่ม เมื่อมาในปัจจุบันที่ปู่ไร้พันธะใด ๆ เพราะภรรยาคนปัจจุบันได้ตายไปแล้ว ส่วนลูก ๆ ก็ต่างมีครอบครัวกันไปหมด ปู่สันติจึงหวังที่จะเลือกเดินตามเส้นทางสายหัวใจเสียที แต่เพราะจากกรุงเทพไปนาน ทำให้หลงเส้นทางตามหาบ้านคนรักเก่าไม่พบ

        แล้วก็เหมือนกามเทพเป็นใจ เมื่อศรุตได้บังเอิญพบเต็มตรองแถวเมืองนนท์ จึงได้ทราบว่าเธอเองก็อยู่แถวนั้น พอ คุณรัมภา มารดาทาบทามให้เขาคุมการก่อสร้างร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งใหม่ที่นนทบุรีของเพื่อนสนิทซึ่งก็คือของโฉมสุดานั่นเอง ศรุตก็รีบตกปากรับคำทันที ทว่าเมื่อข่าวนี้ถึงหูของเบบี๋ เธอก็ต้องเต้นผางเพราะน้าสาวนั้นมีชื่อเสียงไม่ดีเรื่องเด็กหนุ่ม ๆ แต่พอไปพูดกันท่ากับโฉมสุดา น้าสาวก็ยิ่งยั่วให้เบบี๋หัวปั่นเล่น เบบี๋จึงตามไปวุ่นวายในในชีวิตของศรุต แต่ก็เหมือนโชคเข้าข้างเขา เมื่อเขาได้ต้นห้องคนใหม่มาชื่อ มอด ความหมื่นทะลึ่งและถนัดที่จะคอยพูดจากวนโทโสที่มอดมี พอมาพบกับเบบี๋ สงครามย่อย ๆ จึงมาช่วยขัดตาทัพให้ศรุตปลีกตัวออกมาได้

        ส่วนนกยูงก็พบว่าชีวิตไม่ได้สวยหรูอย่างที่วาดหวังไว้เลย เมื่อบวรวิทย์ไม่สามารถจัดหาสิ่งที่เธอเรียกร้องมาได้เลย เพราะเขาเป็นลูกที่อยู่ในโอวาสของมารดา และนกยูงเองก็ไม่ยอมลงให้คุณบราลี

        บวรวิทย์จึงอยู่ในฐานะคนกลางที่กระอักกระอ่วน แต่เพราะความลุ่มหลงที่ยังทำให้เขาตาบอดอยู่ เขาจึงยังไม่เห็นว่าธาตุแท้ของนกยูงนั้น ไม่ได้สวยงามเช่นรูปกายภายนอก

        ศรุตหมั่นหาทางไปพัวพันกับเต็มตรอง แต่อีกใจก็ไม่วายตะขิดตะขวงกับเรื่องอาชีพเก่าของเธอที่เขาเข้าใจไปเอง เต็มตรองซึ่งทั้งโกรธ ทั้งหมั่นไส้ จึงยอมเล่นตามน้ำ และพูดให้เข้าใจผิดไปอีกว่าเธอกำลังจะเริ่มค้าขายใหม่ และหาทางทำให้เขาใจฝ่อลงไปอีก โดยที่ดึงบิดาลงมาเล่นละครเป็นอาเสี่ยด้วย แต่ศรุตก็ยังไม่ละความพยายามจนออกปากขอซื้อตัวเธอไปในราคาขายขาด แม้เต็มตรองจะโมโหเพียงใด แต่ก็ปฏิเสธใจตัวเองไม่ได้ว่าพร้อม ๆ กันนั้น เธอก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจอยู่ไม่น้อย เมื่อเขามาคอยป้วนเปี้ยนให้เห็นอยู่เสมอ จนเวลาที่เธอเตรียมการจะเปิดร้านขายแกงเขียวหวาน โดยจัดสร้างร้านในบริเวณบ้านของคุณสารภี ยังติดอยู่ก็แต่ชื่อร้านเท่านั่นที่เต็มตรองยังมืดแปดด้าน จู่ ๆ เพราะบ้านเลขที่ 2001 ของคุณยาย เต็มตรองก็สรุปชื่อร้านได้ว่า เขียวหวาน 2001

        ทว่าเต็มตรองก็ยังมีปัญหาค้างคาใจเรื่องความเข้าใจผิดของศรุตอยู่ พอปรึกษาคุณยายก็ได้ทราบถึงสาเหตุที่คุณยายเป็นโสดมาจนถึงทุกวันนี้ ว่าเป็นเพราะฐานะทางสังคมที่ไม่คู่ควรกัน แม้จะมีคนอาสาจะสมานแผลใจอย่าง เด่น เศรษฐีเจ้าถิ่น ที่ทำตัวเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงอย่างคุณสารภีมาโดยตลอด แต่ก็เป็นมดแดงใจร้อนที่รอมะม่วงสุกไม่ไหว ระหว่างรอคุณยายเธอตกลงปลงใจ เด่นก็รอไป มีเมียไปจนทั้งลูกทั้งเมียแทบจะล้นบ้าน แต่คุณสารภีก็ยังเก็บผู้ชายคนนั้นไว้ในดวงใจ โดยที่เต็มตรองหารู้ไม่ว่าไม่ใช่ใครอื่นไกลก็คือปู่สันติของศรุตนั่นเอง

        พอเห็นว่าศรุตพยายามรักษาระยะห่างกับเธอไว้ เบบี๋ก็หาทางเผด็จศึกศรุต จึงวางแผนชวนเขามารับประทานอาหารที่บ้าน ศรุตชวนมอดไปเป็นกันชน และมอดก็ช่วยรักษาพรหมจรรย์ของศรุตไว้ได้จริง ๆ ก่อนพาหนีแม่เสือสาวไปได้ทันเวลา แต่เบบี๋ก็หาทางกางกรงเล็บแสดงความเป็นเจ้าของศรุตจนได้ ด้วยการป่าวประกาศลงหนังสือพิมพ์ จนโฉมสุดาต้องออกมาปกป้องศรุต โดยทำทีเป็นว่าเขาคืออีกหนึ่งในทำเนียบหนุ่มสะสม เพื่อช่วยไม่ให้ลูกเพื่อนต้องโชคร้ายไปตลอดชีวิต

        และแล้ววันเปิดร้านเขียวหวาน 2001 ก็มาถึง เต็มตรองเปิดร้านให้กินฟรี โดยมีเด่นเกณฑ์คนมาสร้างบรรยากาศให้คึกคัก ทั้งยังมีแขกผู้ทรงเกียรติบังเอิญแวะผ่านมา คือสมศักดิ์ผู้ที่ชื่นชอบแกงเขียวหวานอย่างสุดชีวิต และก็ต้องติดใจทั้งรสมือ และดูท่าจะพึงใจเลยไปถึงแม่ค้าด้วย ดีที่เบบี๋ซึ่งไปด้วยขัดคอไว้ แต่สมศักดิ์ก็ไม่วายแอบหมายมั่นปั้นมือที่จะได้เต็มตรองมาแทนที่นกยูง และในวันนั้นการรอคอยของคนสองคนก็สัมฤทธิ์ผล สันติได้พบคุณสารภีและรู้ว่าเธอยังครองตัวเป็นโสดรอเขาอยู่ ทว่าเด่นก็ยังคงวางตัวเป็นหมาหวงก้างดังเดิม

        นกยูงกดดันบวรวิทย์หนัก ส่วนมารดาก็เฉยชาใส่ เขากลุ้มจนต้องมาพึ่งศรุตเป็นที่ปรึกษา ซึ่งก็ช่วยได้เพียงปลอบใจ ช่วงนั้นบังเอิญพิไลพรได้มาสัมภาษณ์คุณบราลี จึงพลอยรับรู้และเห็นใจบวรวิทย์

        จากผลการตอบรับที่ดีของลูกค้า ทำให้เต็มตรองมีกำลังใจ เธอจึงพลิกแพลงหาวิธีดัดแปลงแกงเขียวหวานต่าง ๆ นานา จนมีอาหารหลากหลายสูตร ทำให้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ส่วนศรุตยังคงตามตอแยเต็มตรองอยู่เสมอ จนคุณรัมภาต้องส่งมอดมาคอยสอดแนม

        จนในที่สุดนกยูงก็ตัดสินใจทิ้งบวรวิทย์ ซึ่งก็เป็นโอกาสเดียวกับที่พิไลพรเริ่มมาสนิทสนมด้วย บวรวิทย์จึงได้คนรักษาแผลใจ ส่วนนกยูงก็กลับไปหาสมศักดิ์ แต่เขายังเล่นตัวอยู่ พอจะหวนไปหาบวรวิทย์ เขาก็หมดรักกับเธอแล้ว นกยูงคว้างพยายามหาทางไป เมื่อได้ทราบว่าพิไลพรคือคนรักใหม่ของบวรวิทย์ และเป็นญาติของเต็มตรอง ทั้งสมศักดิ์เองก็แสดงออกซึ่งความสนใจในตัวเต็มตรอง นกยูงจึงหาวิธีแก้แค้น โดยร่วมมือกับเบบี๋ หลอกให้เต็มตรองมาจัดงานที่บ้านสมศักดิ์ เพื่อเปิดทางให้ได้ล่วงเกินเต็มตรอง โดยแลกกับสัญญาว่าเบบี๋จะไม่มายุ่งเกี่ยวกับเธออีก และเพื่อที่เบบี๋จะได้ขจัดขวากหนามออกไปจากทางรักของตนกับศรุต

        เต็มตรองเกือบเสียที ดีที่ต่อรองกับสมศักดิ์ได้ โดยการยอมเปิดเผยสูตรลับแกงเขียวหวานของยายเธอให้เขาทราบ ภายหลังเรื่องร้ายผ่านไป เต็มตรองจึงยอมบอกความจริงกับศรุตว่าเขาเข้าใจผิดเธอมาโดยตลอด เรื่องอาชีพขายบริการ ศรุตดีใจที่เธอไม่มีประวัติด่างพร้อยให้มารดาเขาตำหนิ จึงตัดสินใจจะแต่งงาน แต่ก็ช้ากว่าคู่ของสันติ และสารภี

        ก่อนถึงงานแต่ง เต็มตรองก็คิดจะจัดการแข่งขันทำแกงเขียวหวานขึ้นที่ร้าน เบบี๋สมัครด้วยเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่มีอะไรที่เธอทำไม่ได้ ผลปรากฏว่าเบบี๋ได้ที่สอง เธอผิดหวังพอ ๆ กับที่ได้รู้ว่าสุดท้ายบิดาก็มาลงเอยกับคู่กัดตัวฉกาจของเธอ น้าโฉมสุดานั่นเอง

        ในที่สุดศรุตกับเต็มตรองก็ลงเอยกันด้วยดี ด้วยมนต์เสน่ห์และรสชาติของแกงเขียวหวาน ที่บ้านเลขที่ 2001