เรื่องย่อ
บทประพันธ์ ดวงตะวัน

ณ ชุมชนในพื้นที่ลุ่มภาคกลาง บนที่ว่าการอำเภอบางส้มเปรี้ยว อำเภอเล็ก ๆ ซึ่งมีอยู่เพียงสองตำบล คือบางส้มเปรี้ยว กับบางส้มหวาน

โมฬี หรือ แตงโม สาวน้อยหน้าใส ใบหน้าสวยหวาน ผมซอยสั้น ดูปราดเปรียว มั่นใจ หญิงสาวเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยมาได้ไม่ถึงปี ไฟแรง ยึดอุดมคติ มีอุดมการณ์ เป็นบุตรสาวคนเดียวของอดีตอธิบดียิ่งยศ ซึ่งเพิ่งเกษียณอายุราชการ ได้รับการเลี้ยงดูประคบประหงมจาก คุณปานวาด ผู้เป็นมารดา แต่โมฬีก็เติบโตมากับความซื่อสัตย์ ความชัดเจน ความเป็นคนตรงของบิดา คุณยิ่งยศได้ชื่อว่าเป็นคนมือสะอาด และไม่เคยเกรงกลัวอิทธิพลใด ๆ ทั้งสิ้นตลอดชีวิตการรับราชการ ไม่ต้องนึกสงสัยเลยว่าเรื่องการใช้อำนาจอิทธิพลนั้น โมฬีจะรังเกียจสักแค่ไหน

หญิงสาวเลือกที่จะเข้ารับราชการ แม้เงินเดือนเพียงน้อยนิด และไม่ลังเลใจที่จะเลือกมาทำงานในชนบทในตำแหน่ง "พัฒนากรคนใหม่ แห่งอำเภอบางส้มเปรี้ยว"

ที่อำเภอแห่งนี้มีปลัดหนุ่ม "ฉายฉาน" ชายหนุ่มอารมณ์ดี ญาติผู้พี่ของแตงโม ลูก คุณแม้นเขียน น้าสาวของโมฬี ประจำการอยูด้วย

ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ โมฬีจะต้องขับรถกลับบ้านพักที่กรุงเทพฯ และขับกลับมาทำงานในเย็นวันอาทิตย์ทุกครั้ง

วันแรกในชีวิตการทำงานของโมฬีที่อำเภอบางส้มเปรี้ยว หญิงสาวรู้สึกหงุดหงิดใจที่ตลอดทั้งวันได้ยินเสียงกล่าวถึงแต่ชื่อของ "กำนันไก่โต้ง" ด้วยความชื่นชมและศรัทธา จะหยิบจับงานอะไรก็ล้วนแล้วแต่มีเสียงบอกขอให้ปรึกษากำนันไก่โต้งก่อน แม้กระทั่งพี่ชายปลัดฉายฉานก็เป็นไปด้วย แนะนำให้โมฬีไปพบกับ กำนันไก่โต้ง เพื่อขอคำแนะนำในโครงการต่าง ๆ ที่เสนอ สร้างความอึดอัด ขัดใจให้โมฬีเพิ่มยิ่งขึ้น หญิงสาว
รู้สึกความมั่นใจ มุ่งมั่น ถูกตัดทอนลง เพราะพ่อกำนันไก่โต้ง

โมฬีรู้สึกมีอคติกับกำนันไก่โต้งมาก คิดไปว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลในพื้นที่ ขนาดแค่เพื่อนข้าราชการยังเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ แล้วชาวบ้านตาสีตาสาคงถูกอิทธิพลครอบงำหมดแล้ว หญิงสาวตัดสินใจบุกรังไก่โต้งด้วยความท้าทาย เมื่อไปถึงกลับไม่พบเจอพ่อกำนันไก่โต้งจ๋า พบแต่เด็กหญิงน่ารัก 2 พี่น้อง มะปราง และ ส้มโอ ซึ่งโมฬีเข้าใจว่าเป็นลูกของกำนันไก่โต้ง และพบเจออดีต กำนันเดช กำนันตงฉิน พ่อของกำนันไก่โต้ง ซึ่งเป็นปู่กำนันจ๋าของเด็กหญิงผลไม้ 2 หน่วย


ปู่กำนัน และเด็กหญิงผลไม้ 2 หน่วย ได้พูดคุยและรู้สึกพึงพอใจในโมฬีมาก เมื่อไม่พบกำนันไก่โต้ง โมฬีลากลับและบอกน้องว่าจะมาหาใหม่อีก
โมฬีแวะขับรถเลยไปตลาด พบเห็นสหกรณ์การเกษตรแห่งบางส้มเปรี้ยว โมฬีถือโอกาสเข้าไปแนะนำตัว ท่าทีอ่อนน้อมเป็นมิตร สิบนิ้วพนม และยิ้มที่อ่อนหวาน สร้างความคุ้นเคยให้เกิดกับชาวบ้านอย่างรวดเร็ว หญิงสาวได้รู้จักแกนนำของสหกรณ์ คู่หูสูงวัย ตาสี และ ตาสา ประธานและรองประธานสหกรณ์

โมฬีได้รับรู้ถึงปัญหาที่กำลังประชุมอยู่ คือเรื่องปุ๋ยที่กำลังขาดแคลน ในโกดังไม่มีเหลือ ทางจังหวัดส่งมาช้ามาก ข้าวจะเริ่มตั้งท้องและต้องใช้ปุ๋ย หญิงสาวรับรู้ด้วยความตกใจ เพราะเธอต้องรับหน้าที่นี้แทนเกษตรอำเภอที่ลาคลอดพ่วงเข้าไปอีกงานด้วย

ตาสาเล่าว่า ร้านปุ๋ยในจังหวัดนี้มีอยู่แค่ร้านเดียวเท่านั้น ราคาแพงมาก ถ้าใครรอไม่ได้ก็ต้องไปซื้อเป็นหนี้เพิ่มขึ้นพร้อมดอกเบี้ยมหาโหด ขณะที่พูดคุยกันอยู่ มีชายหนุ่มก้าวเข้ามาในสหกรณ์ สวมเครื่องแบบข้าราช-การสีกากี ชาวบ้านเรียกว่า "กำนัน" โมฬีตกใจคิดว่าผู้ชายนี้คือกำนันไก่โต้ง แท้ที่จริงแล้วคือ กำนันเลิศฤทธิ์กำนันกังฉินจอมเจ้าชู้แห่งอำเภอบางส้มหวาน ลูกน้องคนสนิทของ ส.ส. พล ภัทรชัย ผู้ทรงอิทธิพล หญิงสาวรู้สึกโกรธมาก เมื่อหันไปเห็นว่ากำนันผู้นี้กวาดสายตาไปทั่วร่างของเธออย่างไร้มารยาท โมฬีไม่รู้ว่าผิดตัวเพราะไม่รู้ชื่อจริงของกำนันไก่โต้ง

ชาวบ้านขอคำแนะนำจากกำนันเลิศฤทธิ์ในเรื่องปัญหาปุ๋ย เลิศฤทธิ์กลับแนะนำให้ไปซื้อในจังหวัดมาใช้ก่อน เพราะได้เปอร์เซ็นต์จากร้านค้า เถ้าแก่ฮง ยังความแปลกใจให้โมฬีมาก นี่หรือกำนันไก่โต้งที่คนพูดถึงด้วยความชื่นชมในผลงานตลอดมา เธอนึกดูถูกในใจ

หลังจากพบกำนันเลิศฤทธิ์แล้ว (ซึ่งโมฬีคิดว่าเป็นกำนันไก่โต้ง) หญิงสาวมีความรู้สึกคลายกังวลโล่งใจขึ้น เพราะคิดว่าแท้จริงแล้วกำนันไก่โต้งก็ไม่ได้มีความสามารถอะไรมากมายพอที่จะมากดดันเธอได้ แต่ความรู้สึกนี้อยู่ได้ไม่นาน เมื่อมีชายหนุ่มนิรนามบุกขึ้นไปพบเธอที่ว่าการอำเภอ ท่าทางที่เชื่อมั่น และบุคลิกมั่นใจของผู้มาเยือน สร้างความอึดอัดให้แก่โมฬีเป็นอย่างมาก


เกษตรกรหนุ่มนิรนาม สอบถามข้อมูลเรื่องโครงการต่าง ๆ โมฬีให้คำแนะนำไปได้ไม่ดีนัก ชายหนุ่มซักถามจนพอใจแล้วลุกจากไปอย่างเงียบ ๆ พร้อมฝากคำพูดให้โมฬีรู้สึกหน้าชาเลยทีเดียว

โมฬีรู้สึกอับอายมากและสงสัยชายหนุ่มผู้นี้คือใคร ความประหม่าทำให้เธอลืมถามชื่อเสียงของเกษตรกรหนุ่มนิรนาม

ศรา หรือ กำนันไก่โต้ง ก็นึกเคืองคุณพัฒนากรคนใหม่ ที่กล้าเข้าไปบุกถึงถิ่นของตน ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่สหกรณ์ฯ ชายหนุ่มจึงตั้งใจขึ้นไปพบโมฬีที่อำเภอโดยไม่ให้ตั้งตัว เพื่อที่จะหยั่งเชิงและดูหน้าดูตัว จากที่เห็นศรารู้สึกหวั่นใจว่า โมฬีอาจเหมือนหนุ่มสาวจบใหม่ ไฟแรง มีความคิดน่าทึ่ง แต่ขาดความอดทน และไม่มีความกล้าหาญเพียงพอ จนในที่สุดก็พ่ายแพ้ต่อปัญหาและอุปสรรค ปล่อยให้ไฟมอดดับไปเอง เขาจึงจำเป็นต้องตรวจสอบพฤติกรรมของผู้มาใหม่ เพื่อแผ่นดินบ้านเกิดของเขา

เมื่อวันนัดมาถึง โมฬีมีความมั่นใจมากขึ้น พร้อมบุกบ้านกำนันไก่โต้ง (ซึ่งภายในความคิดของโมฬีคือกำนันเลิศฤทธิ์) เมื่อไปถึงบ้านกำนันไก่โต้ง โมฬีก็แทบช็อคเมื่อรู้ความจริงว่า เกษตรกรหนุ่มนิรนามคือ "กำนันไก่โต้ง" หญิงสาวรู้สึกเสียหน้าและโกรธแต่เพียงระงับไว้ ทั้งสองคนพูดต่อปากต่อคำอย่างไว้เชิง

กำนันไก่โต้งไม่แน่ใจความสามารถในการทำงานของโมฬี จึงพูดจากระทบเปรียบเปรยกับโมฬี หญิงสาวก็พูดจาตอบโต้อย่างมีเหตุผลโดยไม่เกรงกลัว ในที่สุดกำนันไก่โต้งยอมเอ่ยปากชวนโมฬีให้เข้าร่วมทำงานด้วยเพื่อเป็นการทดสอบ งานแรกคือเข้าไปที่หมู่สอง เก็บข้อมูลจากแรงงานคืนถิ่น

ศรา ภัยหลีก หรือกำนันไก่โต้งจ๋า แห่งบางส้มเปรี้ยว หนุ่มหล่อตาคม ผมหยักศก ดีกรีปริญญาโทจากอังกฤษ ตระกูล "ภัยหลีก" เป็นกำนันมาสี่ชั่วคนแล้ว เขาอยากเป็นกำนันเพราะเขารักบ้านเกิดและพร้อมจะตายบนผืนแผ่นดินนี้ และปรารถนาที่จะนำเอาวิชาความรู้ที่เรียนมาจากแดนไกลมาใช้กับที่นี่ เป็นชายหนุ่มที่เข้มแข็งเอาการเอางาน ชาวบ้านศรัทธาและนับถือมาก เป็นหนุ่มโสด เคยผิดหวังจากความรัก แฟนสาวที่รักกันมา 4 ปี ไปแต่งงานกับ ส.ส.หนุ่มอนาคตไกล

ศรามีเพื่อนสนิทอยู่ 2 คน คือ ปลัดฉาย และ ดร.อนล วโรดม เลขาท่านรัฐมนตรี และมีน้องชายอยู่ 1 คน ชื่อ ชยา หรือ "ผู้ใหญ่ไก่ต๊อก" ชายหนุ่มเจ้าสำอาง รูปหล่อ นัยน์ตาคม เมียทิ้งเพราะทนความเจ้าชู้ไม่ไหว มีลูกติด 2 คน ตกเป็นภาระเลี้ยงดูของพ่อและพี่ชาย ตัวเองแยกไปอยู่ต่างหากเพื่อความสะดวกสบาย ชยาเป็นคนไม่ค่อยเอาถ่าน เหตุที่ได้เป็นผู้ใหญ่หมู่ 2 เขารู้ตัวว่าเป็นเพราะบารมีของตระกูลภัยหลีก และพี่ชาย และเพราะความไม่เอาไหนของเขา ทำให้กำนันไก่โต้งพี่ชายของเขาต้องคอยติดตามช่วยเหลืออยู่เสมอ ชยารู้สึกมีปมด้อยและเบื่อหน่วย อยากสลัดเงาของพี่ชายออกไปให้พ้นจากตัวเสียที

วันแรกของการทำงานร่วมกันระหว่างศราและโมฬี เป็นไปอย่างราบรื่น ได้รับการตอบรับและร่วมมือจากชาวบ้านอย่างดี ศราได้พาโมฬีไปแนะนำกับชาวบ้านหมู่ 2 และพาไปดูโครงการต่าง ๆ ที่จัดทำ อาทิ ปลูกพืชผักเสริมรายได้ ทั้งสองปรึกษาหารือกันอย่างมีเหตุและผล ศรารู้สึกประทับใจในความตั้งใจทำงานละเอียด รอบคอบของโมฬี แต่ก็ยังไม่แน่ใจนัก ฝ่ายหญิงสาวก็มีทัศนคติที่ดีขึ้นมากต่อกำนันไก่โต้ง

โมฬีได้ให้คำแนะนำเรื่องปลูกพืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ เป็นการเสริมรายได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งกำนันและลูกบ้านพึงพอใจมาก จากการปรึกษาเรื่องแรงงานคืนถิ่น ทำให้ทั้งสองรู้ว่ามีทัศนคติในการดำเนินการเรื่องนี้ โดยยึดหลักเศรษฐกิจแบบพอเพียงของในหลวงอยู่เหมือนกัน โมฬีเสนอความคิดแก่ศราเรื่อง "ช่องว่างระหว่างคน 2 กลุ่ม" คือชาวบ้านบางส้มเปรี้ยวที่อยู่ที่นี่ และพวกที่กำลังจะกลับมา วิถีชีวิตที่ผ่านมาอาจแตกต่างกัน อาจจะทำให้ความสัมพันธ์ไม่แน่นแฟ้นเหมือนเดิม ต้องหาวิธีทำอย่างไรให้ต่อกันติด ศราทึ่งในความคิดของหญิงสาว

ท่ามกลางความราบรื่นในการปรึกษางาน ศราก็อดไม่ได้ที่จะยั่วเย้าหญิงสาวให้เกิดการต่อปากต่อคำ เจ็บแสบเล็ก ๆ ในหัวใจ เมล็ดดอกรักเริ่มฝังตัวในหัวใจ รอวันผลิบานโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัว

โครงการเร่งด่วนที่ทั้งสองรู้ดีว่าจะต้องทำก่อน คือเรื่องปุ๋ยที่ขาดแคลน ปลัดฉายฉานและศรารู้ถึงความไม่ชอบมาพากลของการจัดส่งปุ๋ย และสงสัยในตัวของกำนันเลิศฤทธิ์ที่แนะนำให้ชาวบ้านซื้อปุ๋ยแพงจากร้านเถ้าแก่ฮงทำไม แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ศราหารู้ไม่ว่าน้องชายร่วมสายโลหิตผู้ใหญ่ไก่ต๊อกหรือชยา กำลังถูกอิทธิพลมืดและความโลภเข้าครอบงำ ร่วมมือกับกำนันเลิศฤทธิ์ด้วย

ศราพาโมฬีไปพบ หลวงตาบูลย์ ศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านเพื่อขอคำปรึกษาเรื่องแรงงานคืนถิ่น แต่เมื่อเวลาหลายวันผ่านไปกลับมีข่าวลือว่า กำนันไก่โต้งพาโมฬีไปดูฤกษ์หมั้น ศราร้อนใจรีบมาหาหญิงสาวเพื่อปรับความเข้าใจ โมฬีขอให้กำนันบอกชาวบ้านและยอมรับคุณวัลหรือ "นังวัล" ตามที่เคยได้ยินกำนันเรียกที่บ้านเป็นภรรยา เรื่องจะได้จบ กำนันไก่โต้งจึงพาโมฬีไปบ้าน เพื่อไปพบคุณวัลหรือนังวัล แท้ที่จริงแล้วเป็นกระเทยเด็กรับใช้ในบ้าน ส่วนเด็กหญิงผลไม้ 2 หน่วยก็เป็นลูกของผู้ใหญ่ไก่ต๊อก น้องชายนั่นเองโมฬีรู้สึกยินดีอยู่ในใจลึก ๆ

โมฬีไปตามเรื่องปุ๋ยกับ สืบศักดิ์ เกษตรจังหวัด ข้าราชการหนุ่มผู้อ่อนแอ ท้อถอย ถูกระบบอิทธิพลกลืนกิน แต่ความอ่อนหวานและนอบน้อมของโฬีทำให้สืบศักดิ์ตื่นตัวในการทำงานมากขึ้น รับปากว่าจะเร่งปุ๋ยให้ ในที่สุดหญิงสาวสามารถหาให้บางส้มเปรี้ยวได้รับปุ๋ยค้างสต๊อกมาใช้ก่อนจำนวน 2 ตัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน หญิงสาวพิสูจน์ความสามารถให้เห็นแล้ว สร้างความเชื่อถือและไว้วางใจจากกำนันไก่โต้ง และชาวบ้านเพิ่มมากขึ้น

เรื่องบางส้มเปรี้ยวได้ปุ๋ยที่ค้างสต๊อกไปใช้ก่อน ให้ตัวการใหญ่ ส.ส.พล ผู้ที่ใช้อิทธิพลหน่วงเหนี่ยวการสั่งจ่ายปุ๋ยให้ล่าช้า เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง โกรธแค้นมาก

เบื้องหลัง ส.ส. ผู้นี้เป็นเจ้าของบริษัทที่ทำธุรกิจทางด้านสินค้าที่ใช้ในการเกษตร โดยมีภรรยาสาวสวย "กมลมาศ ภัทรชัย" เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ อดีตสาวน้อยดาวมหาวิทยาลัย แฟนเก่าของกำนันไก่โต้ง

หนุ่มใหญ่วางแผนให้ทางกรมสั่งปุ๋ยช้าเพื่อบริษัทของตัวเองขายปุ๋ยได้ก่อน ถึงแม้ชาวบ้านจะเดือดร้อนก็ไม่ใส่ใจ เพื่อเม็ดเงินในกระเป๋าที่เพิ่มขึ้น ส.ส. พล เรียกกำนันเลิศฤทธิ์มาต่อว่าพร้อมกับวางแผนร้ายหาเงินเข้ากระเป๋าต่อไป

กำนันเลิศฤทธิ์แค้นใจ พกปืนไปพูดข่มขู่สืบศักดิ์จนกลัวหงอต่อไปให้เชื่อฟัง ไม่ขัดขวางการทำงานของระบบอิทธิพล และรายต่อไปกำนันไก่โต้ง ซึ่งเขารู้สึกหมั่นไส้มานานแล้ว

แต่ผู้ที่รับเคราะห์แทนกลับเป็นโมฬี วันนี้เด็กหญิงมะปรางไม่สบาย ศราขอให้หญิงสาวไปช่วยดูเพราะที่บ้านไม่มีใคร เมื่อเวลากลับโมฬีได้ขับรถของศรากลับบ้าน ระหว่างทางถูกลอบยิงแต่เป็นการยิงขู่เพราะมันยิงขึ้นฟ้า 3 นัด เพื่อเป็นการขู่เตือน

โมฬีไม่กล้าบอกใครแม้กระทั่งพี่ชาย เธอแน่ใจว่าผู้ที่มันคิดจะขู่เตือนน่าจะเป็นกำนันไก่โต้งเจ้าของรถที่เธอขับมามากกว่า หญิงสาวสับสนและกลัว จึงกลับบ้านที่กรุงเทพฯ ด้วยความว้าวุ่นใจ ความกลัวทำให้ไม่อยากกลับไปทำงานอีก แต่ในที่สุดโมฬีก็ตัดสินใจที่จะกลับไปทำงานที่บางส้มเปรี้ยวต่อ และเพื่อไปเตือนกำนันไก่โต้งถึงเรื่องคนปองร้าย เพราะความผูกพัน ความสนิทสนมจากการทำงานร่วมกัน เหมือนเป็นสายใยเหนี่ยวรั้งไว้ให้คืนกลับไป

เมื่อกำนันไก่โต้งรู้ความจริงจากโมฬี รู้สึกตกใจมาก และแสดงความรู้สึกของหัวใจออกมาเป็นคำพูด ห่วงใย ทำให้โมฬีรู้สีกหวั่นไหว แต่พยายมสลัดออกไปจากใจ

ท้องฟ้าเริ่มแจ่มใสแล้วสำหรับอำเภอบางส้มเปรี้ยว ยิ่งวันโครงการที่เธอร่วมคิดร่วมทำกับพ่อกำนันไก่โต้งจ๋า ก็ยิ่งเห็นเป็นรูปร่าง ไม่ว่าโครงการต้อนรับแรงงานคืนถิ่น ประสานใจให้ต่อติด ก็ประสบความสำเร็จ ได้รับความช่วยเหลือจากหลวงตาบูลย์ และชาวบ้านเป็นอย่างดี เรื่องส่งเสริมให้ปลูกผักไว้กินและเหลือขาย ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง จนทำให้เกิดตลาดนัดผักสดปลอดสารพิษตามสมัยนิยม ทำให้ชาวบ้านที่ตกงานมีรายได้พอเลี้ยงตัว พร้อมกับความสัมพันธ์ของโมฬีและศราก็แนบแน่น สนิทสนมมากยิ่งขึ้น ศรารู้ตัวดีว่ารักโมฬีแต่ไม่กล้าเอ่ยบอก ส่วนโมฬีเองก็มีความรู้สึกที่ดีตอบเช่นกัน ท่ามกลางการเอาใจช่วยของทุก ๆ คนที่พอจะมองออกถึงความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวคู่นี้ แต่ไม่มีอะไรจะราบรื่นไปเสียหมด ย่อมมีปัญหาเกิดขึ้นให้แก้ไข เมื่อโมฬีมีปัญหาเรื่องการหาตลาดสมุนไพรไม่ได้ เพราะขาดประสบการณ์ ศราแสดงให้หญิงสาวรู้ว่า เธอจะไม่ต้องเดียวดายและต่อสู้เพียงลำพัง คนร่วมงานอย่างเขาพร้อมที่จะโอบอุ้มและฝ่าฟันไปด้วยกันกับเธอ โดยได้รับความช่วยเหลือจากหลวงตาบูลย์ ผู้ที่ชาวบ้านให้ความนับถือ ทำให้ปัญหาทุกอย่าลุล่วงไปด้วยดี

ส.ส.พล วางแผนเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากความสำเร็จของโครงการปลูกพืชผักไว้เสริมอาชีพของศราและโมฬี ใช้ช่วงเวลาที่ชาวบ้านกำลังตื่นตัวเรื่องการปลูกพืชผักขจัดความยากจน แทรกอิทธิพลเข้ามาเพื่อผลประโยชน์ที่จะได้รับอย่างมหาศาล โดยร่วมมือกับอธิบดีของกรม ฯ มีค่าตอบแทนเป็นเงินก้อนใหญ่ ให้มีคำสั่งส่งเสริมเรื่องการปลูกผักต่อเนื่อง โดยจัดส่งเมล็ดพันธุ์ตัวอย่าง ซึ่งเป็นของบริษัทภรรยา ส.ส. พล มาให้ทดลองปลูก แต่จัดส่งมาให้เพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ไม่พอเพียงแจกได้ทั่วถึงทุกท้องที่ หากสำนักงานเกษตรแห่งใดต้องการซื้อเพิ่มเติมก็สามารถซื้อได้ในราคาทุนตามที่ระบุไว้ในเอกสารที่แนบประกอบ แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นราคาที่สูงมาก ซึ่งบริษัท ส.ส.พล จะได้รับผลประโยชน์ไปเต็ม ๆ เท่านั้นยังไม่พอ ความฉ้อฉลยังมีตามมาอีกเป็นลูกโซ่

สืบศักดิ์ในฐานะของเกษตรจังหวัด รู้เรื่องดีแต่ไม่กล้ายุ่ง เพราะกลัวอิทธิพลมืด กำนันเลิศฤทธิ์ร่วมขบวนการโกงกินด้วย พร้อมชักชวนผู้ใหญ่ไก่ต๊อกให้ร่วมมือกันอีกครั้ง ชักชวนให้ชาวบ้านใช้เมล็ดพันธุ์ของบริษัท ส.ส.พล โดยมีรถกระบะใหม่เป็นรางวัล

ศรา โมฬี และปลัดฉายฉาน เป็นกังวลเรื่องเมล็ดพันธุ์นี้มาก รู้สึกถึงความไม่ขอบมาพากล เพราะกำนันเดช พ่อของศราได้บอกไว้ว่า เมล็ดพันธุ์นี้อาจจะไม่ทนกับสภาพดินฟ้าอากาศของท้องถิ่น ต้องใช้ปุ๋ยเสริมและยาฆ่าแมลงเข้าไปด้วย ผู้ที่จะได้รับผลประโยชน์จริง ๆ คือพ่อค้า สบายสองต่อ

ซึ่งก็เป็นจริงตามที่ปู่กำนันกล่าว เกิดปัญหาพืชผักแคระแกรนไม่สวยงาม ไม่เติบโต เก็บขายก็ไม่ได้หรือแม้กระทั่งเก็บกินก็แทบไม่มี เดือดร้อนไปทุกหัวระแหง

ตรงตามแผนที่ ส.ส.พล วางไว้ ชาวบ้านแห่กันไปซื้อปุ๋ยและยาฆ่าแมลงกันอย่างมากมาย ศราทนเห็นความเดือดร้อนของลูกบ้านไม่ไหว จึงขอความช่วยเหลือจาก ดร.อนล เพื่อนสนิทซึ่งเป็นเลขาท่านรัฐมนตรี ให้ช่วยสืบเรื่องเมล็ดพันธุ์นี้ด้วย และติดตามพฤติกรรมของอธิบดีด้วย

ศราบังเอิญได้รับรู้ความจริงเรื่องของชยา น้องชายเขา ว่ามีส่วนรู้เห็นกับขบวนการโกงกินเมล็ดพันธุ์นี้ด้วย ชายหนุ่มตามไปบ้านของชยา แต่ไม่พบตัวชยา พบแต่หลักฐานคือรถใหม่ที่ทำให้เขาเชื่อว่าชยามีส่วนรู้เห็นกับการฉ้อฉลครั้งนี้แน่ ๆ กำนันไก่โต้งได้แต่เก็บความขมขื่นใจไว้เพียงผู้เดียว ไม่กล้าบอกให้ใครรู้ เพราะกลัวน้องชายจะถูกเอาผิด

เมื่อศราตามไปพบน้องชายในวันรุ่งขึ้น ชยาไม่ยอมรับ กำนันไก่โต้งขอให้หยุดทำ เพื่อเห็นแก่พ่อและลูกสาวของตัวเอง แต่ไม่ได้รับการตอบรับ

นับวันความเดือดร้อนยิ่งมากทวีขึ้น ศราและโมฬีตัดสินใจให้ลูกบ้านเข้าร้องเรียนไปทางท่านรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรโดยตรง โดยผ่านทางอินเตอร์เน็ต ชาวบ้านแปลกใจและดีใจมาก

เมื่อโมฬีกลับบ้านที่กรุงเทพฯ ได้ขอให้ วิริยา นักข่าวสาวเพื่อสนิทร่วมมหาวิทยาลัยให้ช่วยทำข่าวความไม่ชอบมาพากลของเมล็ดพันธุ์ผัก และปุ๋ยราคาแพงที่แพร่ระบาดไปทั่วท้องถิ่นลุ่มภาคกลาง ซึ่งตรงกับสกู๊ปข่าวที่วิริยาได้รับมอบหมายให้ทำอยู่พอดี เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ใหญ่หันมามองปัญหานี้อย่างจริงจังและรีบด่วน

ดร.อนลแจ้งข่าวมาให้ศราว่า ท่านรัฐมนตรีได้รับอีเมล์ของชาวบ้านแล้ว และไฟเขียวให้ลุยสืบข้อเท็จจริงได้ และส่งความช่วยเหลือเร่งด่วน ทั้งในรูปของเมล็ดพันธุ์ กล้าผัก และเงิน มาให้ด้วย

พร้อม ๆ กับข่าวดีที่มีมาถึงชาวบ้านบางส้มเปรี้ยว คนที่ได้รับข่าวร้ายคือ ส.ส. พล ภัทรชัย อธิบดีโทรศัพท์มาหาเขา บอกกล่าวเรื่องที่ ดร.อนลมาสืบ ส.ส.พล ตกใจมิใช่น้อย อธิบดีย้ำให้ทำลายหลักฐานการเซ็นคำสั่งอนุมัติของท่านไม่ให้เหลือซาก ส.ส.พล รับปาก

ส.ส. พล คิดหนักว่าจะแก้เกมนี้อย่างไร เพื่อลบกระแสความสงสัยนี้ให้จางหายไปโดยเร็ว เขาตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากภรรยา กมลมาศ ภัทรชัย ให้ลงพื้นที่พร้อมคณะสมาคมแม่บ้าน ส.ส. ที่จะกำชับให้กำนันเลิศฤทธิ์ ไปทำลายหลักฐานที่มีอยู่กับสืบศักดิ์ เกษตรจังหวัดให้หมดสิ้น

ดร.อนล แจ้งข่าวเพิ่มเติมแก่กำนันไก่โต้งว่า ไปสืบและสอบอธิบดีมาแล้ว แต่ไม่ได้เรื่องอะไร อธิบดีปากแข็งไม่ยอมรับ อ้างไม่เห็นคำสั่งขอให้นำหลักฐานมาแสดง ดร.อนลโกรธ และบอกว่าต้องหาหลักฐานคำสั่งที่เซ็นออกมาจากอธิบดี เพื่อเชื่อมโยงไปมัดตัว ส.ส.พล และขบวนการทั้งหมด เพราะทำงานกันเป็นทีม ศราได้ฟังรู้สึกใจหายวูบ คิดถึงชยาน้องชายของเขา

ทางด้านโมฬีไปสืบหาหลักฐานจากทางเกษตรจังหวัดคือสืบศักดิ์นั่นเอง และได้พบเห็นเอกสารหลักฐานชิ้นหนึ่งโดยบังเอิญ แต่ไม่สามารถนำออกมาได้

ศรากลุ้มใจมากเรื่องน้องชาย ไปหาโมฬีที่อำเภอแต่ไม่พบ ตั้งใจจะเล่าเรื่องของชายให้ฟังจึงตามไปหาโมฬีที่สำนักงานเกษตรจังหวัด แต่เพราะความหึงของกำนันไก่โต้งทำให้เกิดมีปากเสียงกับโมฬี หญิงสาวเสียใจ น้อยใจ จึงหนีกลับกรุงเทพ โดยยังไม่ได้บอกเล่าเรื่องการเห็นหลักฐานชิ้นสำคัญ

กำนันไก่โต้งทนความคิดถึงไม่ไหว ตัดสินใจตามโมฬีไปถึงบ้านเพื่อง้อขอคืนดี โดยมีปลัดฉายฉาน, มะปราง และส้มโอ ตามไปเป็นผู้ช่วย ศราขอโทษโมฬีถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ความรัก ความผูกพันที่มีให้กันมา ทำให้ทั้งสองคนสามารถปรับความเข้าใจได้

บิดาและมารดาของโมฬี เคยพบเจอศราและกำนันเดชแล้ว รู้สึกชอบอัธยาศัยและไว้วางใจให้ดูแลโมฬี กำนันไก่โต้งพาโมฬีกลับสู่อำเภอบางส้มเปรี้ยวอีกครั้ง

ศราตัดสินใจบอกถึงความทุกข์ใจของเขาเรื่องผู้ใหญ่ไก่ต๊อกร่วมมือกับ ส.ส.พล โมฬีให้กำลังใจศราทำให้ชายหนุ่มรู้สึกดีขึ้นมาก

เมื่อแยกจากกันโมฬีตัดสินใจไปบ้านผู้ใหญ่ไก่ต๊อก เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ชยาถอนตัวออกมาจากขบวนการโกงกิน โดยให้นึกถึงความอับอายของกำนันเดชผู้เป็นพ่อ และเด็กหญิงผลไม้ 2 หน่วยด้วย ในขณะที่โมฬีกำลังโน้มน้าวชยาอยู่ พ่อกำนันไก่โต้งก็โผล่เข้ามาโดยมิได้นัดหมาย สร้างความกดดันให้แก่ชยาอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อศราพาลูกสาวทั้งสองของเขามาด้วย

ในที่สุดชยาคิดได้ กลับตัวกลับใจตัดสินใจนำรถไปคืนให้กำนันเลิศฤทธิ์ สร้างความแค้นเคืองให้แก่มือเท้าของ ส.ส.พล ผู้นี้ยิ่งนัก

แล้วก็ถึงวันที่ ส.ส.พล และคณะแม่บ้านมาเยี่ยมชมที่อำเภอบางส้มเปรี้ยว มีนักข่าวติดตามมาทำข่าวเป็นกลุ่มใหญ่ รวมทั้งวิริยาเพื่อนักข่าวของโมฬีด้วย ภายในงานบังเอิญโมฬีได้ยินชยาคุยกับคนอื่นถึงกมลมาศ เมีย ส.ส.พล ว่าเป็นแฟนเก่าของศรา ทำให้ศราอกหัก และเป็นรักแรกที่ฝังใจของเขา คงไม่เหลือใจให้ใครอีก

โมฬีได้ยินรู้สึกเสียใจและน้อยใจเป็นอันมาก คิดเข้าใจผิดว่ากำนันไก่โต้งโกหกหลอกลวงเอาไว้หลอกใช้ จึงคิดที่จะหลบหนีหน้าไปอีก แต่เผอิญได้ยินกำนันเลิศฤทธิ์ข่มขู่สืบศักดิ์เรื่องให้ทำลายหลักฐานของอธิบดี ถ้อยคำนี้เหมือนเป็นยาระงับความเจ็บปวดได้ชั่วคราว

โมฬีฉุกคิดถึงเอกสารหลักฐานสำคัญที่ไปแอบเห็นมาในห้องทำงานของสืบศักดิ์ เธอตัดสินใจที่จะไปเอาเอกสารมาให้ได้ และเมื่อไปถึงห้องทำงานของสืบศักดิ์ โมฬีค้นเจอเอกสารจนได้ จึงรีบโทรบอกวิริยานักข่าวสาวเพื่อนที่สนิทซึ่งอยู่ในงาน เล่ารายละเอียดให้ฟังและบอกว่าจะนำเอกสารกลับมาให้
โมฬีตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อเห็นสืบศักดิ์ยืนอยู่หน้าประตู ชายหนุ่มขอร้องไม่ให้เธอยุ่งเรื่องนี้ และขอเอกสารคืน โมฬีปฏิเสธ เกิดการต่อสู้ยื้อแย่ง โมฬีตีศรีษะชายหนุ่มด้วยเซรามิคบนโต๊ะ โมฬีมองเห็นศราตามเข้ามาในห้อง ความเสียใจเอ่อท้นขึ้นมา จึงแสดงท่าทีและวาจาเฉยชากับชายหนุ่ม ศรารู้สึกงงและประหลาดใจมาก

เมื่อได้รับหลักฐานมาแล้ว วิริยานักข่าวสาวทำการออกอากาศสด เปิดโปงหลักฐานการฉ้อฉลของขบวนการนี้ มัดตัวอธิบดี และโยงใยไปถึง ส.ส.พล โดยมีชยาเป็นพยาน และกำนันเลิศฤทธิ์ร่วมซัดทอด

เหตุการณ์อันฉุกเฉินวุ่นวายตรงหน้าเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ทำให้กมลมาศ ภรรยา ส.ส.พล ตั้งตัวไม่ติด หญิงสาวรู้สึกเคว้งคว้าง แล้วสายตาก็ไปพบเจอกับอดีตคนรักเก่า "พ่อกำนันไก่โต้ง" จึงปราดเข้าไปขอความช่วยเหลือ ศราเห็นใจและปลอบโยน โดยที่ไม่รู้ว่าโมฬียืนมองดูอยู่ด้วยความเสียใจ ปลัดฉายฉานก็มองเห็นเหมือนน้องสาวด้วยเช่นกัน โมฬีหันกลับไปด้วยความปวดร้าวใจ กมลมาศขอให้ศราช่วยเหลือ ส.ส.พล ด้วย แต่ศราปฏิเสธ

ศราไปหาโมฬีไม่เจอ ปลัดฉายฉานบอกโมฬีกลับบ้านที่กรุงเทพฯ และต่อว่าศราพร้อมทั้งเล่าเหตุการณ์ที่เขาและโมฬีได้เห็นมา รวมทั้งผู้ใหญ่ไก่ต๊อกบอกถึงเรื่องที่พูดคุยถึงกมลมาศแล้วโมฬีได้ยิน ศราสรุปเรื่องราวทั้งหมดด้วยความดีใจ และมั่นใจว่าโมฬีก็รักศราเช่นกัน คงจะน้อยใจและหึง

พ่อกำนันไก่โต้งจ๋าจึงวางแผนร่วมกับเพื่อน ๆ ทกคนว่าจะไปสู่ขอโมฬีถึงที่บ้านโดยไม่ให้โมฬีรู้ตัว ศราสู่ขอโมฬีทางโทรศัพท์กับคุณยิ่งยศ ผู้เป็นบิดา และขอความร่วมมือวางแผนการณ์ด้วยกัน บิดา-มารดาของโมฬีไม่ข้ดข้อง และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รวมทั้งเพื่อนสนิททั้ง 4 ของโมฬีด้วย

วันงานสำคัญมาถึง โมฬีแปลกใจที่เพื่อนสนิททั้ง 4 มากันพร้อมหน้า บรรยากาศในบ้านแปลก ๆ ทุกคนดูตี่นเต้นไม่ปรกติ ในที่สุดก็ได้รู้ความจริงเมื่อได้ยินเสียงโห่กลองยาว และภาพที่เห็นทำให้โมฬีแทบไม่อยากจะเชื่อ ขบวนกลองยาวแห่ขันหมาก มองเห็นคู่ซี้สูงวัยตาสีกับตาสา รำป้ออยู่คู่หน้าสุด

พ้นชาวบ้านกลุ่มใหญ่ หญิงสาวถึงได้มองเห็นเด็กหญิงผลไม้ 2 หน่วย มะปราง และส้มโอ ส่งยิ้มให้แต่ไกล เลยไปด้านหลัง พ่อกำนันไก่โต้งนั่นเอง

ในที่สุด กำนันไก่โต้งจ๋า ก็ปรับความเข้าใจกับโมฬี พร้อมสารภาพว่ารักคุณพัฒนากรคนใหม่ตั้งแต่แรกพบ และจะรักคนเดียวตลอดไป

ในอาณาจักรแห่งนี้ บนผืนแผ่นดินหัวใจดวงนี้ มันอาจโดดเดี่ยว อ้างว้างมานานเกินไป และเมื่อหล่อนก้าวเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ เปรียบเสมือนน้ำเย็นไหลบ่าเอ่อท้น ชุบชีวิตที่แห้งแล้ง เดียวดายของเขา และที่สำคัญหล่อนทำให้เขามองเห็นอีกมุมหนึ่งในหัวใจตัวเอง

 


บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
55 อาคารเดลต้าเฮาส์ ชั้น 1 เขตห้วยขวาง กรุงเทพ 10320
โทร : 02-248-2000 แฟ็กซ์ : 02-248-2024
Copyright © by http://www.broadcastthai.com